เมนู

4. สุวรรณกักกฏกชาดก



ว่าด้วยปูตัวฉลาด



[223] มฤคสิงคี คือปูมีตาโปน มีกระดองแข็ง
อาศัยน้ำ ไม่มีขน ฉันถูกมันหนีบ จะร้องไห้
อย่างคนที่ควรกรุณา เฮ้ย เพื่อนแกจะหนีบ
ฉันไปเพื่อประโยชน์อะไร ?
[924] งูที่เป็นเพื่อนนั้น เมื่อจะทัดทานเพื่อน
ของตนไว้ จึงแผ่พังพานใหญ่ไปพลาง พ่นพิษ
ไปพลาง ได้มาถึงตัวปู ปูก็ได้หนีบงูไว้.
[925] ปูไม่ต้องการกินกา ไม่ต้องการกินพระยา
งู แต่หนีบไว้ เจ้าปูตาโปนเอ๋ย ข้าขอถามแก
เหตุไรแกจึงหนีบข้าทั้ง 2 ไว้.
[926] ชายคนนี้ที่จับข้านำไปที่น้ำ เป็นผู้หวัง
ความเจริญแต่ข้า เมื่อเขาตาย ข้าจะมีความ
ทุกข์หาน้อยไม่ เราทั้ง 2 คือข้าและคน ๆ นั้น
จะไม่มี.

[927] อนึ่ง คนทุกคน เห็นข้าผู้มีร่างกายเติบ-
โตแล้ว ต้องการเบียดเบียน คือกินเนื้อที่ทั้ง
อร่อย ทั้งอวบ ทั้งนุ่ม ฝ่ายกาเห็นข้าแล้ว ก็
คงจะเบียดเบียน.
[928] ถ้าหากข้าถูกหนีบ เพราะแห่งชายคนนั้น
ไซร้ ข้าจะดูดพิษกลับ ชายคนนี้ลุกขึ้นได้
แกจงปล่อยทั้งข้าทั้งกาโดยเร็ว ก่อนที่พิษร้าย.
แรงจะเข้าไปสู่ชายคนนี้.
[929] ข้าจะปล่อยงู แต่ยังไม่ปล่อยกาก่อน
เพราะกาจะเป็นตัวประกันไว้ก่อน. ต่อเมื่อเห็น
ชายคนนี้มีความสุขสบายปลอดภัยแล้ว ข้าจึง
จะปล่อยกาไปเหมือนปล่อยงู ฉะนั้น.
[930] กาในครั้งนั้น ได้แก่เทวทัตในบัดนี้ ส่วน
งูเห่าหม้อ ได้แก่ช้างนาฬาคิรี ปูได้แก่พระ-
อานนท์ผู้เจริญ ส่วนตถาคตผู้เป็นศาสดา ได้
แก่พราหมณ์ ในครั้งนั้น.

จบ สุวรรณกักกฏกชาดกที่ 4

อรรถกถาสุวรรณกักกฏกชาดกที่ 4



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภการ
เสียสละชีพของพระอานนทเถระเพื่อพระองค์ จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่ม
ต้นว่า สิงฺคมิโค ดังนี้.
เรื่องแต่ต้นจนถึงการประกอบนายขมังธนู ตรัสแล้วในกัณ-
ฑหาลชาดก การปล่อยช้างธนบาล ตรัสไว้แล้วในจุลลหังสชาดก.
ความย่อว่า ในครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายตั้งเรื่องกันขึ้นในธรรมสภา
ว่า พระอานนทเถระผู้เป็นคลังพระธรรม เป็นผู้บรรลุเสขปฏิสัมภิทา
เมื่อช้างธนบาลกำลังวิ่งมา ก็ได้สละชีวิตถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.
พระศาสดาเสด็จมาถึงแล้วตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวก
เธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ ? เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
ด้วยเรื่องชื่อนี้. จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม่ใช่แต่บัดนี้เท่านั้น
แม้ในชาติก่อนพระอานนท์ก็สละชีวิตเพื่อเราเหมือนกัน ดังนี้แล้ว จึง
ได้ทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้.
ในอดีตกาล ด้านทิศอิสาณของกรุงราชคฤห์ ได้มีบ้านพราหมณ์
ชื่อว่า หลินทิยะ. ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลกาสิกพราหมณ์
ในหมู่บ้านนั้น เติบโตแล้วดำรงทรัพย์สมบัติไว้ให้คนทำกสิกรรม ประ-
มาณ 8 หมื่น ในนามคธแห่งหนึ่ง ด้านทิศอิสาณของหมู่บ้านนั้น.